skip to Main Content
ลานหินโค้ง ใช้เป็นที่ประกอบศาสนกิจของพระสงฆ์และผู้มาปฏิบัติธรรม

สวนโมกขพลาราม ไชยา สุราษฎร์ธานี สถานที่ปฏิบัติธรรมและศึกษาพระพุทธศาสนาสำหรับคนทั่วโลก

สวนโมกขพลาราม สถานที่ปฏิบัติธรรมและศึกษาพระพุทธศาสนา ตามแนวทางของท่านพุทธทาสภิกขุ

สวนโมกขพลาราม อำเภอไชยา จังหวัดสุราษฎร์ธานี มีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า “วัดธารน้ำไหล” ก่อตั้งขึ้นโดยพระธรรมโกศาจารย์ (เงื่อม อินฺทปญฺโญ) หรือ “พระพุทธทาสภิกขุ” ที่บริเวณเขาพุทธทอง ริมทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 41 เส้นทางระหว่างจังหวัดชุมพร – สุราษฎร์ธานี บริเวณกิโลเมตรที่ 134 อำเภอไชยา จังหวัดสุราษฎร์ธานี ก่อตั้งขึ้นเพื่อให้เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมและสถานที่เผยแผ่พระพุทธศาสนา จนมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก

ท่านพุทธทาส หรือ พระมหาเงื่อม (สกุลเดิม พานิช) ในเวลานั้นพร้อมด้วยโยมน้องชายของท่าน คือนายธรรมทาส พานิช และเพื่อนๆ ในคณะธรรมทานประมาณ 4 – 5 คน เท่านั้น ที่ร่วมกันรับรู้ถึงปณิธานอันมุ่งมั่นในการปฏิบัติธรรม ตามรอยพระอรหันต์ ของท่านพุทธทาส ทุกคนมีความเต็มอกเต็มใจที่จะช่วยกันช่วยด้วยความศรัทธา ทุกคนได้ช่วยกันค้นหาสถานที่ ที่คิดว่ามีความวิเวกและเหมาะสมจะเป็นสถานที่ทดลองปฏิบัติธรรม หลังจ่กค้นหาสำรวจกันได้สักพัก ก็พบวัดร้าง มีเนื้อที่ประมาณ 60 ไร่ ซึ่งรกร้างมาเป็นเวลานาน ซึ่งก็คือวัดตระพังจิก โดยภายในวัดนี้มีสระน้ำใหญ่อยู่ด้วย เมื่อสรุปกันว่าจะใช้วัดร้างแห่งนี้เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมแล้ว อุบาสกคณะดังกล่าว ก็ได้ช่วยกันทำเพิงที่พัก ด้านหลังพระพุทธรูปเก่า ซึ่งเป็นพระประธานในวัดร้างนั้น แล้วก็เข้าอยู่ในวัดร้างแห่งนี้ เมื่อวันทื่ 12 พฤษภาคม 2475 ซึ่งตรงกับวันวิสาขบูชา โดยมีเครื่องอัฐบริขาร ตะเกียง และหนังสืออีกเพียง 2 – 3 เล่ม ติดตัวไปเท่านั้น และได้ตั้งชื่อวัดแห่งนี้ใหม่ว่า “สวนโมกขพลาราม”  ซึ่งเกิดจากการที่เห็นว่าบริเวณใกล้ที่พักนั้นมีต้นโมกและต้นพลา ขึ้นอยู่โดยทั่วไป จึงคิดนำชื่อต้นไม้ทั้งสองชนิดนี้มาต่อเติมขึ้นใหม่ให้มีความหมายในทางธรรม อันหมายถึง สวนป่าอันเป็นกำลังแห่งความหลุดพ้นทุกข์

ท่านพุทธทาสภิกขุ ผู้ก่อตั้งสวนโมกขพลาราม
ท่านพุทธทาสภิกขุ ผู้ก่อตั้งสวนโมกขพลาราม [1]

วัดธารน้ำไหล สถานปฏิบัติธรรมชั้นแนวหน้าของเมืองไทย ได้กลายเป็นแหล่งบ่มเพาะความรู้ทางพระพุทธศาสนา ที่มีผู้ศรัทธามากที่สุดแห่งหนึ่งในเมืองไทย ด้วยภายในอาณาบริเวณของสวนโมกข์ มีความร่มรื่นและเงียบสงบ เหมาะสำหรับปฏิบัติธรรม กล่อมเกลาจิตใจ และศึกษาพระพุทธศาสนา ทั้งยังมีโรงมหรสพทางวิญญาณ ซึ่งประกอบด้วยภาพศิลป์ บทกวี คติธรรมคำสอนในพุทธศาสนานิกายต่าง ๆ รวมถึงภาพพุทธประวัติ และภาพจำลองจากภาพหินสลักเกี่ยวกับพุทธประวัติในอินเดีย และบริเวณไม่ไกลจากสวนโมกข์ จะมีสวนรุกขชาติเขาพุทธทอง ซึ่งเป็นสถานที่รวบรวมพันธุ์ไม้ต่าง ๆ ที่มีค่าไว้มากมาย

สวนโมกข์ นอกจากจเป็นสถานที่สำหรับปฏิบัติธรรมและศึกษาพระพุทธศาสนาสำหรับพทธศานิกชนทั่วไปแล้ว ที่นี่ยังสอนการฝึกสมาธิแก่ชาวต่างประเทศด้วย ในวันที่ 1-10 ของทุกเดือน ส่วนชาวไทยนั้นสอนทุกวันที่ 20–27 ของทุกเดือน ตั้งแต่เวลา 08.30–17.00 น.

ลานหินโค้ง ใช้เป็นที่ประกอบศาสนกิจของพระสงฆ์และผู้มาปฏิบัติธรรม
ลานหินโค้ง ที่ประกอบศาสนกิจของพระสงฆ์และผู้มาปฏิบัติธรรม [2]

[1] ขอบคุณรูปประกอบจาก www.dhammathai.org
[2] ขอบคุณรูปประกอบจาก www.me-fi.com

สถานที่น่าสนใจในสวนโมกขพลาราม

  • กุฏิท่านพุทธทาส หรือเรียกว่า กุฏิท่านอาจารย์ ปัจจุบันเป็นหลังที่ 3 ด้านล่างประดิษฐานหุ่นไฟเบอร์กลาสรูปเหมือนของท่านพุทธทาส ให้ผู้ศรัทธาได้เคารพระลึกถึงคุณความดีที่ท่านมีต่อพระพุทธศาสนา
  • ลานหินโค้ง ใช้เป็นที่ประกอบศาสนกิจของพระสงฆ์และผู้มาปฏิบัติธรรม เป็นที่ฝึกนั่งสมาธิและฟังธรรม ประกอบขึ้นจากก้อนหินจัดเรียงเป็นแนวโค้งบนลานดินที่กว้างขวางภายใต้ร่มไม้ใหญ่ที่ร่มรื่นเย็นสบาย
  • โรงมหรสพทางวิญญาณ ภายในมีสองชั้น บนผนังและเสาของอาคารมีภาพปริศนาธรรมมากมาย และภาพของท่านพุทธทาสเมื่อครั้งเดินทางไปอินเดีย เมื่อปี พ.ศ. 2498 สำหรับท่านที่ต้องการเทปคำสอนของท่านพุทธทาส สามารถนำเทปใหม่มาแลกเปลี่ยนเป็นเทปคำสอนของท่านพุทธทาส ที่ทางสวนโมกข์ ได้ทำเพื่อเป็นธรรมทานได้ที่ชั้นสองของอาคารแห่งนี้
  • สระนาฬิเกร์ และธารน้ำไหล บนเกาะกลางสระน้ำภายในวัด มีต้นมะพร้าวเล็กๆ ปลูกอยู่หนึ่งต้น ท่านพุทธทาสตั้งใจให้สระนาฬิเกร์นี้ เป็นสื่อในการสอนธรรมะอีกทางหนึ่งว่า “นิพพานนั้นอยู่ท่ามกลางวัฏฏะสงสาร”
  • โบสถ์บนเขาพุทธทอง ตั้งอยู่บริเวณพื้นที่กลางแจ้งบนเขาพุทธทอง ธรรมชาติที่มีอยู่โดยรอบบริเวณ เปรียบเสมือนอาคารของโบสถ์ มีเสาปักไว้โดยรอบกำหนดเขต เพื่อใช้เป็นที่ประกอบสังฆกรรม
  • ธรรมนาวา เป็นอาคารอเนกประสงค์ สร้างขึ้นเป็นรูปเรือ อิงกับพุทธปรัชญา นาวาแห่งธรรมนำสรรพสัตว์ข้ามห้วงแห่งทุกข์

การเดินทางไปสวนโมกขพลาราม

เนื่องจากสวนโมกขพลารามนั้นเป็นพื้นที่ทางศาสนา ไม่ใด้เป็นสถานที่ท่องเที่ยว สำหรับท่านที่ต้องการไปที่นี่ ควรแต่งกายอย่างสุภาพ งดใช้เสียงดังและโทรศัพท์มือถือ ภายในเขตของสวนโมกขพลาราม เพื่อเป็นการให้เกียรติและแสดงความเคารพแก่สถานที่

การเดินทางไปสวนโมกขพลาราม สามารถเดินทางได้ทั้งโดยรถยนต์ส่วนตัว มาตามทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 41  ที่หลักกิโลเมตรที่ 134 หรือจะเดินทางด้วยการโดยสารรถไฟ มาลงที่สถานีไชยา แล้วต่อรถสองแถวสาย ไชยา-สวนโมกข์-พุนพิน ซึ่งวิ่งบริการผ่านหน้าสวนโมกข์ ก็ได้เช่นกัน หรือหากเดินทางมาจากเส้นทางอื่น หรือวิธีอื่นๆ และต้องการคำแนะนำในการเดินทางไปที่นี่ ก็สามารถติดต่อสอบถามเราได้ ยินดีให้คำปรึกษาแนะนำฟรีๆ

นอกจากนี้แล้ว หากท่านใดหรือกลุ่มคณะใดๆ ต้องการเดินทางโดยใช้บริการเช่ารถตู้พร้อมคนขับ ไม่ว่าจะเริ่มต้นเดินทางจากจุดใด เช่น สนามบินสราษฎร์ธานี สถานีรถไฟสุราษฎร์ธานี และสถานีขนส่ง หรือจุดเริ่มต้นเดินทางอื่นๆ เพื่อเดินไปสวนโมกข์ ก็สามารถสอบถามเราได้ตามช่องทางติดต่อที่มีให้ในเว็บไซต์นี้ SuratVans.com รถตู้เช่าสุราษฎร์ธานี ผู้ให้บริการรถตู้เช่าเหมาในจังหวัดสุราษฎร์ธานี รวมทั้งการเดินทางระยะไกลทั่วประเทศ ยินดีให้บริการทุกท่านเป็นอย่างยิ่ง

This Post Has 0 Comments

Leave a Reply

Your email address will not be published.

คุณต้องการการเดินทางที่ประหยัดและปลอดภัยใช่ไหม?

เรียกใช้บริการของเราสิ!!
รถสะอาด ราคาประหยัด ขับขี่ปลอดภัย มาพร้อมบริการที่ดีที่สุด
ติดต่อเราด่วนๆ! โทรเลย!
Back To Top